ขอบคุณภาพจาก www.dailymail.co.uk
HK Vogue : The Asian Inspiration
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com
Benefit of Prunes หลากประโยชน์ของลูกพรุน
ลูกพรุน (Prunes) คือ ผลจากการนำลูกพลัมมาตากแห้ง เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เป็นที่รู้จักและนิยมนำมารับประทานกันเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือลักษณะที่นำมารับประทานมีทั้งรับประทานเป็นผลสด นำมาตากแห้ง ทำเป็นน้ำลูกพรุน และนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร ในปัจจุบันประเทศทางแถบเอเชียให้ความสนใจลูกพรุนมากขึ้นเนื่องจากคุณค่าทางอาหารและประโยชน์ที่ได้รับจากการรับประทานลูกพรุน และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มาจากลูกพรุน
ลูกพรุนมีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา เนื่องจากมีสารอาหารและวิตามินต่างๆ เช่น
1.วิตามินเอ ช่วยป้องกันตาบอดกลางคืน (Night Blindness) เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น และช่วยรักษาโรคตาได้หลายโรคด้วย (ช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสงในตา) เป็นต้น
2.วิตามินบี 2 ที่ช่วยบำรุงเส้นประสาทที่เลี้ยงลูกตา ช่วยเสริมประสิทธิภาพการมองเห็น และบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
3.วิตามินอี บำรุงตาในส่วนของจอรับภาพหรือ จอประสาทตา ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
สารอาหารในลูกพรุน มีดังนี้
ไฟเบอร์ (Fiber) , โปแตสเซี่ยม (Potassium), สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ,คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrates) , วิตามินซี (Vitamin C) , วิตามินเอ (Vitamin A) , วิตามินบี 6 (Vitamin B6) , ธาตุเหล็ก (Iron) , เพคทิน (Pectin) สารอาหารอื่นๆ (Other Nutrients) ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่พบ ได้ในลูกพรุน คือ แร่ธาตุ ต่างๆ เช่น ทองแดง (copper) , แคลเซียม (calcium) ฟอสฟอ รัส และ แมกนีเซียม (phosphorus and magnesium) เช่นเดียวกับ วิตามิน ต่างๆ เช่น วิตามินบี 1 (thiamine) , วิตามินบี 2 (riboflavin) , โฟเลต (folate) , วิตามินบี 3 (niacin) , วิตามินบี 5 (panthotenic acid) และ วิตามินบีรวม (vitamin b complex)
ข้อควรระวัง: ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมถึงคนไข้ที่ถ่ายเหลว หรือยังมีอาการลำไส้ไม่ปกติอยู่ ห้ามรับประทานลูกพรุนเป็นอันขาดเพราะจะทำให้มีอาการของโรคหนักขึ้น เนื่องจากในลูกพรุนมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นทำให้มีโพแทสเซียมคั่งในเลือด ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อล้า หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ และไม่ควรรับประทานเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยฤทธิ์การระบาย อาจทำให้ท้องเสียได้ในบางราย ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคน้ำลูกพรุน คือ รับประทานครั้งละ 15-30 cc.ต่อคน
ข้อมูลอ้างอิง : วิตามินเอ และ อี : วิตามินไบเบิล
ข้อควรระวัง และ บทความรายการวิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน : สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=5477
Prunes : The World's Healthiest Foods http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=103
Prune From Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Prune#Health_effects
What Are The Benefits Of Dried Plums? : livestrong http://www.livestrong.com/article/420197-what-are-the-benefits-of-dried-plums/?utm_source=livestrong_opar&utm_medium=3&LS-2659
สารอาหารในลูกพรุน : Web Clinic http://www.web-clinic.org/Benefits-Of-Prunes.html Vitamin Bible by Dr. Earl Mindell R.PH., M.PH., PH.D