HK Vogue : The Asian Inspiration

HK Vogue : The Asian Inspiration Contact : Willy Tel. 093 649 2288 email : hkvoguethailand@gmail.com
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

Health Benefits of Pumpkin ประโยชน์ของฟักทอง

https://www.facebook.com/pages/HkVogue-Thailand/1432360273653136
Thanks picture from The Food Pod

HK Vogue : The Asian Inspiration

"HkVogue Thailand"
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Health Benefits of Pumpkin
ประโยชน์ของฟักทอง

Pumpkins protect the skin

A great one, exactly the same free-radical-neutralizing powers of the carotenoids within pumpkin that could maintain cancer cells away may also help maintain the skin wrinkle-free.

For healthy skin

Pumpkin is additionally abundant with good fatty acids within the protein which skin needs and in addition include vitamin E, zinc, and magnesium that serves to help make the skin much more glowing. Consuming pumpkin may also let the regrowth of skin cells as well as combat bacteria that can cause acne. Vitamin E is really a effective anti-oxidant that can help skin repair procedure. Zinc included in the pumpkin is yet another acne treatment.

A pumpkin is actually a gourd-like squash of the genus Cucurbita and also the family Cucurbitaceae (that also consists of gourds). It generally describes cultivars of any one of the varieties Cucurbita pepo, Cucurbita mixta, Cucurbita maxima, and Cucurbita moschata, and is also indigenous to North America. They sometimes have got a thicker, orange or even yellow covering, creased from the stem to the bottom, which contains the seeds and pulp. Pumpkins usually are broadly cultivated for industrial use, and therefore are utilized both in food as well as recreation. Pumpkin pie, as an example, is really a standard section of Thanksgiving meals in the USA, as well as pumpkins are generally designed as adornments all-around Halloween. A pumpkin which has a little face carved within it and hollowed out and embellished along with candles within is regarded as a jack o’lantern; they are frequently utilized at Halloween, as an example, to embellish windows.

The pumpkin is really a extremely nourishing veggie due to its large store of vitamins and anti-oxidants. It is abundant with vitamin A along with other antioxidants just like carotenes, xanthins and leutin. Additionally it is lower in calories and therefore is probably the broadly cultivated veggie on the earth.

Content from : http://www.healthbenefitstimes.com/health-benefits-of-pumpkin/

ประโยชน์ของฟักทอง

1.ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา
2.ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น
3.ประโยชน์ฟักทอง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
4.ฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย
5.ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
6.น้ำมันจากเมล็ดฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงประสาท
7.เมล็ดฟักทองช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะมีสารที่ช่วยในการสร้าง Serotinin ซึ่งมีผลต่ออารมณ์
8.มีฤทธิ์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
9.เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดความอ้วน เพราะมีไขมันน้อยกากใยสูง
10.ฟักทองมีกรดโปรไพโอนิคซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
11.มีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
12.มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ
13.ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณข้อเข่า บั้นเอว
14.มีส่วนช่วยป้องกันโรคผิวหนัง
15.เปลือกฟักทองมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
16.ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหลังจากร่างกายทำงานอย่างหนัก และทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
17.รากฟักทองนำมาต้มกับน้ำดื่มช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ
18.ฟังทองจัดว่ามีกากใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับถ่าย
19.ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นซึ่งจะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
20.ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
21.สรรพคุณของฟักทอง มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
22.สรรพคุณฟักทอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว
23.ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากขยายใหญ่มากขึ้น
24.ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ
25.ช่วยขับพยาธิตัวตืด โดยนำเมล็ดฟักทองประมาณ 50 กรัม นำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำตาล นม และเติมน้ำลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แล้วนำมาแบ้งรับประทานเป็น 3 ครั้ง ทุกๆ 2 ชั่วโมง
26.ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง
27.รากฟักทองเมื่อนำมาต้มดื่มจะช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย ถอนพิษของฝิ่นได้
28.เยื่อกลางของผลฟักทอง สามารถนำมาใช้พอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด และอักเสบได้
29.ใช้รับประทานเป็นอาหารว่าง อย่าง น้ำฟักทองคั้นสด พายฟักทอง
30.นำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ย่างหลากหลาย เช่น ซุปฟักทอง แกง กินกับน้ำพริก เป็นต้น

ฟักทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Cucurbita moschata Decne. ฟักทองแบ่งออกเป็นสองตระกูล อย่างแรกก็คือ ตระกูลฟักทองอเมริกัน (Pumpkin) จะมีผลใหญ่ เนื้อยุ่ย และอีกตระกูลคือตระกูลสควอช (Squash) ซึ่งได้แก่ฟักทองไทยและฟักทองญี่ปุ่น โดยฟักทองไทยนั้น ผิวของผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองสลับเขียว ผิวขรุขระเล็กน้อยโดยเปลือกจะมีลักษณะแข็งเนื้อในมีสีเหลือง พร้อมด้วยเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่ฟักทอง
ประโยชน์ของฟักทอง นั้นมีหลากหลายเพราะฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็ก ซิงค์ เป็นต้น

ฟักทอง ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะฟักทองมีกากใยที่สูงมาก มีแคลอรี่และไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพียงแค่รับประทานฟักทองหนึ่งถ้วยหรือ 3 กรัมจะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

ฟักทอง แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานอย่างไม่เหมาะสมก็เป็นโทษได้ เช่น เพราะฟักทองมีฤทธิ์อุ่น จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่กระเพาะร้อน เช่น ผู้ที่มักมีอาการกระหายน้ำ ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก มีแผลในช่องปาก เหงือกบวมเป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่มีอาการเหล่านี้ไม่ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่มากเกินไปหรือบ่อยเกินไป แม้กระทั่งในคนปกติเองก็ตามก็ไม่ควรรับประทานอย่างไร้สติ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้

ฟักทอง สรรพคุณและประโยชน์ของฟักทอง 30 ข้อ!  http://buff.ly/1EYMR0U
บทความโดย: มิส พัชรี มาลีรัตน์
งาน: งานโภชนาการ

คำแนะนำ

Disclaimer : บทความที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านสุขภาพแก่ผู้เข้าชมเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยในการรักษาของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

***ในแต่ละวันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานอาหารให้หลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆกันทุกวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี***

ข้อแนะนำ : ควรศึกษาข้อมูลจากหลากหลายที่ และเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อความชัดเจน เพราะข้อมูลบางอย่างอาจจะยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนอย่างชัดเจน และหากมีข้อสงสัยใดๆควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่าน และ/หรือ นักกำหนดอาหาร (dietitian) - นักโภชนาการ (nutritionist)

"Ask Healthy Living" is for informational purposes only and is not a substitute for medical advice. Please consult a qualified health care professional for personalized medical advice.

บทความที่ได้รับความนิยม