HK Vogue : The Asian Inspiration

HK Vogue : The Asian Inspiration Contact : Willy Tel. 093 649 2288 email : hkvoguethailand@gmail.com
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

Various benefits of plum หลากประโยชน์ของลูกพลัม

Thanks picture from eatingrichly.com

HK Vogue : The Asian Inspiration

"HkVogue Thailand"
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Various benefits of plum
หลากประโยชน์ของลูกพลัม 

พลัมสดมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมายหลายชนิด เริ่มจากสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นรงควัตถุที่ทำให้ผักผลไม้มีสีแดงหรือม่วง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง มีวิตามินซีที่สำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก และวิตามินเอที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย บำรุงสุขภาพตา

ประโยชน์ลูกพลัม เช่น 

1.ช่วยในการชะลอวัย ชะลอความแก่ ป้องกันโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เพราะพรุนเป็นผลไม้ที่มีไขมันต่ำและมีสารอาหารสำคัญสูงอยู่หลายชนิด เช่น วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ,ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่าผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่ได้ดีที่สุดคือ “ลูกพรุนแห้ง” หรือ “ลูกพรุนอบแห้ง” โดยสูงกว่าลูกเกด ส้ม แอปเปิ้ล ลูกแพร์ เกรปฟรุต บลูเบอร์รี ฯลฯ

2.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด (LDL)และช่วยลดระดับความดันโลหิต จึงให้ประโยชน์ต่อหลอดเลือดหัวใจ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี

3.ผลไม้ที่มีสีแดง-ม่วง เช่น แอปเปิ้ล องุ่น สตรอเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี รวมไปถึงลูกพรุน จะเข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง หากใครอยากฉลาดก็ให้รับประทานผลไม้ที่มีสีนี้กันเยอะๆ

4.ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เพราะลูกพรุนมีวิตามินอีและแร่ธาตุที่
ช่วยลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อยามเครียด

5.พรุนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม การรับประทานลูกพรุนจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://prayod.com/

คุณค่าทางโภชนาการของลูกพลัม ต่อ 100 กรัม

- พลังงาน 46 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 11.42 กรัม
- น้ำตาล 9.92 กรัม
- เส้นใย 1.4 กรัม
- ไขมัน 0.28 กรัม
- โปรตีน 0.7 กรัมลูกพลัม
- วิตามินเอ 17 ไมโครกรัม 2%
- เบต้าแคโรทีน 190 ไมโครกรัม 2%
- ลูทีน และ ซีแซนทีน 73 ไมโครกรัม
- วิตามินบี1 0.028 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี2 0.026 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี3 0.417 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี5 0.135 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี6 0.029 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี9 5 ไมโครกรัม 1%
- วิตามินซี 9.5 มิลลิกรัม 11%
- วิตามินอี 0.26 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินเค 6.4 ไมโครกรัม 6%
- ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.17 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมงกานีส 0.052 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุฟอสฟอรัส 16 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 157 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโซเดียม 0 มิลลิกรัม 0%

ข้อควรระวัง: ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมถึงคนไข้ที่ถ่ายเหลว หรือยังมีอาการลำไส้ไม่ปกติอยู่ ห้ามรับประทานลูกพรุนเป็นอันขาดเพราะจะทำให้มีอาการของโรคหนักขึ้น เนื่องจากในลูกพรุนมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นทำให้มีโพแทสเซียมคั่งในเลือด ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อล้า หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ และไม่ควรรับประทานเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยฤทธิ์การระบาย อาจทำให้ท้องเสียได้ในบางราย ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคน้ำลูกพรุน คือ รับประทานครั้งละ 15-30 cc.ต่อคน

ขอบคุณข้อมูลจาก http://frynn.com/

Health Benefits

Significant Antioxidant Protection from Phenols

The fresh version (plums) and the dried version (prunes) of the plant scientifically known as Prunus domestica have been the subject of repeated health research for their high content of unique phytonutrients called neochlorogenic and chlorogenic acid. These substances found in plum and prune are classified as phenols, and their function as antioxidants has been well-documented. These damage-preventing substances are particularly effective in neutralizing a particularly dangerous oxygen radical called superoxide anion radical, and they have also been shown to help prevent oxygen-based damage to fats. Since our cell membranes, brain cells and molecules such as cholesterol are largely composed of fats, preventing free radical damage to fats is no small benefit.

Content from Plums & Prunes - The World's Healthiest Foods
http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=35

ข้อมูลอ้างอิง : 

ข้อควรระวัง และ บทความรายการวิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน : สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=5477
Prunes : The World's Healthiest Foods http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=103 
Prune From Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Prune#Health_effects
What Are The Benefits Of Dried Plums? : livestrong http://www.livestrong.com/article/420197-what-are-the-benefits-of-dried-plums/?utm_source=livestrong_opar&utm_medium=3&LS-2659 
สารอาหารในลูกพรุน : Web Clinic http://www.web-clinic.org/Benefits-Of-Prunes.html Vitamin Bible by Dr. Earl Mindell R.PH., M.PH., PH.D

คำแนะนำ

Disclaimer : บทความที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านสุขภาพแก่ผู้เข้าชมเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยในการรักษาของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

***ในแต่ละวันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานอาหารให้หลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆกันทุกวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี***

ข้อแนะนำ : ควรศึกษาข้อมูลจากหลากหลายที่ และเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อความชัดเจน เพราะข้อมูลบางอย่างอาจจะยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนอย่างชัดเจน และหากมีข้อสงสัยใดๆควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่าน และ/หรือ นักกำหนดอาหาร (dietitian) - นักโภชนาการ (nutritionist)

"Ask Healthy Living" is for informational purposes only and is not a substitute for medical advice. Please consult a qualified health care professional for personalized medical advice.

บทความที่ได้รับความนิยม