HK Vogue : The Asian Inspiration

HK Vogue : The Asian Inspiration Contact : Willy Tel. 093 649 2288 email : hkvoguethailand@gmail.com
Bookmark and Share

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

Benefit of Prunes by HK Vogue หลากประโยชน์ของลูกพรุน

ขอบคุณภาพจาก www.dailymail.co.uk

HK Vogue : The Asian Inspiration

Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Benefit of Prunes หลากประโยชน์ของลูกพรุน 

ลูกพรุน (Prunes) คือ ผลจากการนำลูกพลัมมาตากแห้ง เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เป็นที่รู้จักและนิยมนำมารับประทานกันเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือลักษณะที่นำมารับประทานมีทั้งรับประทานเป็นผลสด นำมาตากแห้ง ทำเป็นน้ำลูกพรุน และนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร ในปัจจุบันประเทศทางแถบเอเชียให้ความสนใจลูกพรุนมากขึ้นเนื่องจากคุณค่าทางอาหารและประโยชน์ที่ได้รับจากการรับประทานลูกพรุน และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มาจากลูกพรุน

ลูกพรุนมีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา เนื่องจากมีสารอาหารและวิตามินต่างๆ เช่น

1.วิตามินเอ ช่วยป้องกันตาบอดกลางคืน (Night Blindness) เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น และช่วยรักษาโรคตาได้หลายโรคด้วย (ช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสงในตา) เป็นต้น
2.วิตามินบี 2 ที่ช่วยบำรุงเส้นประสาทที่เลี้ยงลูกตา ช่วยเสริมประสิทธิภาพการมองเห็น และบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา

3.วิตามินอี บำรุงตาในส่วนของจอรับภาพหรือ จอประสาทตา ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก

สารอาหารในลูกพรุน มีดังนี้

ไฟเบอร์ (Fiber) , โปแตสเซี่ยม (Potassium), สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ,คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrates) , วิตามินซี (Vitamin C) , วิตามินเอ (Vitamin A) , วิตามินบี 6 (Vitamin B6) , ธาตุเหล็ก (Iron) , เพคทิน (Pectin) สารอาหารอื่นๆ (Other Nutrients) ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่พบ ได้ในลูกพรุน คือ แร่ธาตุ ต่างๆ เช่น ทองแดง (copper) , แคลเซียม (calcium) ฟอสฟอ รัส และ แมกนีเซียม (phosphorus and magnesium) เช่นเดียวกับ วิตามิน ต่างๆ เช่น วิตามินบี 1 (thiamine) , วิตามินบี 2 (riboflavin) , โฟเลต (folate) , วิตามินบี 3 (niacin) , วิตามินบี 5 (panthotenic acid) และ วิตามินบีรวม (vitamin b complex)

ข้อควรระวัง: ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมถึงคนไข้ที่ถ่ายเหลว หรือยังมีอาการลำไส้ไม่ปกติอยู่ ห้ามรับประทานลูกพรุนเป็นอันขาดเพราะจะทำให้มีอาการของโรคหนักขึ้น เนื่องจากในลูกพรุนมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นทำให้มีโพแทสเซียมคั่งในเลือด ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อล้า หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ และไม่ควรรับประทานเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยฤทธิ์การระบาย อาจทำให้ท้องเสียได้ในบางราย ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคน้ำลูกพรุน คือ รับประทานครั้งละ 15-30 cc.ต่อคน

ข้อมูลอ้างอิง : วิตามินเอ และ อี : วิตามินไบเบิล
ข้อควรระวัง และ บทความรายการวิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน : สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=5477
Prunes : The World's Healthiest Foods http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=103
Prune From Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Prune#Health_effects
What Are The Benefits Of Dried Plums? : livestrong http://www.livestrong.com/article/420197-what-are-the-benefits-of-dried-plums/?utm_source=livestrong_opar&utm_medium=3&LS-2659
สารอาหารในลูกพรุน : Web Clinic http://www.web-clinic.org/Benefits-Of-Prunes.html Vitamin Bible by Dr. Earl Mindell R.PH., M.PH., PH.D

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

วิตามิน แร่ธาตุ สำหรับคนสายตาสั้น Vitamins and minerals for myopia.

ขอบคุณภาพจาก http://hdwbin.com/hd-fruit.html

HK Vogue : The Asian Inspiration

Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

วิตามิน แร่ธาตุ สำหรับคนสายตาสั้น

ด้วยสังคมและการใช้ชิวิตที่เปลี่ยนไป ที่นำเอาเทคโนโลยีมาไว้ในมือ จากสภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้การใช้สายตาจดจ้องกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งสิ่งใดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เป็นปัจจัยให้ในปัจจุบันผู้คนมีภาวะสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้น เมื่อสายตาสั้นแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ก็อาจทำให้สายตาสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นควรทานอาหารดีมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสายตาอยู่เป็นประจำ ดังนี้

รู้จักวิตามิน และ แร่ธาตุ สำหรับคนสายตาสั้น 

1.วิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีความสำคัญต่อร่างกายในด้านการมองเห็น ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน (Night Blindness) แหล่งอาหารที่สำคัญ ได้แก่ อาหารจากสัตว์ พบมากใน น้ำนม เนย เนยแข็ง ตับ น้ำมันตับปลา โปรวิตามินเอพบในผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง และผักใบเขียวเข้ม เพราะมีเบต้าแคโรทีนและแคโรนอยด์ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอต่อไป เช่น ผักตำลึง ยอดชะอม คะน้า ยอดกระถิน ผักโขม ฟักทอง มะม่วงสุก บรอกโคลี แคนตาลูป แตงกวา ผักกาดขาว มะละกอสุก หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ พริกหวาน แตงโม กระเจี๊ยบเขียว

2.วิตามินบี 1 มีคุณสมบัติช่วยบำรุงดวงตาได้เป็นอย่างดี การขาดวิตามินบี 1 มีผลทำให้ประสาทที่นำภาพไปสู่สมองเกิดความผิดปกติได้ แหล่งอาหารที่สำคัญ ได้แก่ ถั่วลิสง ข้าวซ้อมมือ เต้าหู้ งา กระเทียม สาหร่าย ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ยีสต์ ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี ไข่ นม

3.วิตามินอี มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคตา โดยเฉพาะในทารกคลอดก่อนกำหนด จากการวิจัยพบว่า การขาดวิตามินอีทำให้จอรับภาพของดวงตาเสื่อมได้ แหล่งอาหารที่มีวิตามินอีสูง ได้แก่ น้ำมันพืช จมูกข้าวสาลี ถั่วเมล็ดแห้ง และธัญพืชต่างๆ กะหล่ำปลี เมล็ดทานตะวัน ถั่วเปลือกแข็งประเภทอัลมอนด์ มันเทศ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อะโวคาโด (เฉพาะเนื้อ) ปวยเล้ง

4.สังกะสี มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ การมองเห็นในที่มืด และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ถ้าขาดสังกะสีแล้วจะเจริญเติบโตช้า ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และตาบอดกลางคืนได้ อาหารที่ให้ธาตุสังกะสีสูงและดูดซึมได้ดีคือ พบได้มากในอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น อาหารทะเล ในหอยนางรม เนื้อ ตับ ไข่ นม ไก่ ปลา ข้าวกล้อง และถั่ว

นอกจากนั้น อย่าลืมปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสม เช่นหลังจากคุณอ่านหนังสือทุกๆ 40-50 นาที ควรพักสายตาด้วยการมองไกลๆ หรือมองต้นไม้ ใบไม้เขียวๆ บ้าง

ที่มา : นิตยสารรายปักษ์ "ชีวจิต"

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของใบเตยหอม Benefits of Pandan Leaves by HK Vogue

ขอบคุณภาพประกอบจาก vegtalk.org

HK Vogue : The Asian Inspiration

Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

HEALTHY TIPS

ประโยชน์ของใบเตยหอม (Pandan Leaves)
Benefits of Pandan Leaves

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pandanus amaryllifolius  Roxb.
ชื่อสามัญ : Pandanus Palm , Fragrant Pandan , Pandom wangi.
วงศ์ :  Pandanaceae
ชื่ออื่น : ปาแนะวองิง (มาเลเซีย-นราธิวาส)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อ ใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่ง ถ้าดูด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือ ใบมีกลิ่นหอม

ส่วนที่ใช้ :  ต้นและราก, ใบสด

คนไทยนิยมใช้ใบเตยสด แต่งสีเขียวในอาหารและแต่งกลิ่น เช่น แต่งสีในขนมขี้หนูลอดช่อง ซ่าหริ่ม วุ้น ขนมชั้น เป็นต้น ในอาหารคาวมีผู้ใช้ใบเตยหอมห่อไก่และนำไปอบให้มีกลิ่นหอมชวนรับประทานหรือนำไปใช้แต่งกลิ่นข้าวมันให้มีกลิ่นหอมโดยใช้ใบเตยล้างน้ำให้สะอาด ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ เมื่อข้าวสุกเอาข้าวมันทับใบเตยไว้ ปิดฝาทิ้งไว้ให้ระอุ ข้าวมันจะกลิ่นหอมน่ารับประทาน

ใบเตยยังประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอีกหลายชนิด โดยใบเตยหอม 100 กรัม จะมีเบต้าแคโรทีน 3 ไมโครกรัม, วิตามินซี 8 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม, วิตามินบี3 1.2 มิลลิกรัม, ธาตุแคลเซียม 124 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 0.1 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรต 4.6 กรัม, โปรตีน 1.9 กรัม และให้พลังงานถึง 35 กิโลแคลอรี

ขอบคุณภาพประกอบจาก vegtalk.org

ประโยชน์ของใบเตย

- ใบเตยใบเตยหอม สรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น และช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ (น้ำใบเตย)
- การดื่มน้ำใบเตยจะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี เพราะใบเตยมีกลิ่นหอมเย็นทานแล้วจึงรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย
- รสหวานเย็นของใบเตย ช่วยชูกำลังได้
- การดื่มน้ำใบเตยช่วยแก้อาการอ่อนเพลียของร่างกายได้ ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
- ช่วยลดความดันโลหิต (สารสกัดน้ำจากใบเตย)
- ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- ใบเตย สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการอาการและดับพิษไข้ได้
- ใบเตยช่วยดับพิษร้อนภายในได้เป็นอย่างดี
- ประโยชน์ของใบเตยใช้รักษาโรคหืด (ใบ) เป็นต้น

Pandan Leaves: Pandan is again something that is perhaps not as well known as it should be outside of Asian cooking. It is a leaf that is absolutely power packed with tannins, anti-oxidants and alkaloids, all essential for the health and strength of the immune system and good tonics for anyone suffering from issues with their bladder, as it can help maintain regularity and ease any discomfort. They are also an excellent choice for anyone who is feverish or suffering from such illnesses as an ear infection or chest discomfort due to a cough or cold. The leaves can be chewed raw or turned into a soothing juice to help with toothache or bleeding gums as they will numb pain and have an anti-bacterial effect.
Thanks English Article From : Fantastic Thai Cuisine
http://goo.gl/SxqFM4

ข้อมูลอ้างอิง

วิตามิน แร่ธาตุ วิตามินไบเบิล (Vitamin Bible)
กลุ่มพืชหอม เป็นยาบำรุงหัวใจ
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_03_3.htm
กรีนเนอรัลด์
http://goo.gl/9otxKq
เตยหอม จากวิกิพีเดีย
http://goo.gl/3h7Vq2
Thai Herbs Chiangmai
http://www.thai-herbs-chiangmai.com/bai-ya-nang-tea.html
Pandan Leaves Health Benefits
http://www.drinkbenefits.com/pandan-leaves-health-benefits.htm
health benefits - Thai foods - Fantastic Thai Cuisine
http://www.fantastic-thai.com/healthythai.htm

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

Various benefits of plum หลากประโยชน์ของลูกพลัม

Thanks picture from eatingrichly.com

HK Vogue : The Asian Inspiration

"HkVogue Thailand"
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Various benefits of plum
หลากประโยชน์ของลูกพลัม 

พลัมสดมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมายหลายชนิด เริ่มจากสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นรงควัตถุที่ทำให้ผักผลไม้มีสีแดงหรือม่วง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง มีวิตามินซีที่สำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก และวิตามินเอที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย บำรุงสุขภาพตา

ประโยชน์ลูกพลัม เช่น 

1.ช่วยในการชะลอวัย ชะลอความแก่ ป้องกันโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เพราะพรุนเป็นผลไม้ที่มีไขมันต่ำและมีสารอาหารสำคัญสูงอยู่หลายชนิด เช่น วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ,ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่าผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่ได้ดีที่สุดคือ “ลูกพรุนแห้ง” หรือ “ลูกพรุนอบแห้ง” โดยสูงกว่าลูกเกด ส้ม แอปเปิ้ล ลูกแพร์ เกรปฟรุต บลูเบอร์รี ฯลฯ

2.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด (LDL)และช่วยลดระดับความดันโลหิต จึงให้ประโยชน์ต่อหลอดเลือดหัวใจ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี

3.ผลไม้ที่มีสีแดง-ม่วง เช่น แอปเปิ้ล องุ่น สตรอเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี รวมไปถึงลูกพรุน จะเข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง หากใครอยากฉลาดก็ให้รับประทานผลไม้ที่มีสีนี้กันเยอะๆ

4.ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เพราะลูกพรุนมีวิตามินอีและแร่ธาตุที่
ช่วยลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อยามเครียด

5.พรุนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม การรับประทานลูกพรุนจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://prayod.com/

คุณค่าทางโภชนาการของลูกพลัม ต่อ 100 กรัม

- พลังงาน 46 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 11.42 กรัม
- น้ำตาล 9.92 กรัม
- เส้นใย 1.4 กรัม
- ไขมัน 0.28 กรัม
- โปรตีน 0.7 กรัมลูกพลัม
- วิตามินเอ 17 ไมโครกรัม 2%
- เบต้าแคโรทีน 190 ไมโครกรัม 2%
- ลูทีน และ ซีแซนทีน 73 ไมโครกรัม
- วิตามินบี1 0.028 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี2 0.026 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี3 0.417 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี5 0.135 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี6 0.029 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี9 5 ไมโครกรัม 1%
- วิตามินซี 9.5 มิลลิกรัม 11%
- วิตามินอี 0.26 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินเค 6.4 ไมโครกรัม 6%
- ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.17 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมงกานีส 0.052 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุฟอสฟอรัส 16 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 157 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโซเดียม 0 มิลลิกรัม 0%

ข้อควรระวัง: ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมถึงคนไข้ที่ถ่ายเหลว หรือยังมีอาการลำไส้ไม่ปกติอยู่ ห้ามรับประทานลูกพรุนเป็นอันขาดเพราะจะทำให้มีอาการของโรคหนักขึ้น เนื่องจากในลูกพรุนมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นทำให้มีโพแทสเซียมคั่งในเลือด ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อล้า หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ และไม่ควรรับประทานเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยฤทธิ์การระบาย อาจทำให้ท้องเสียได้ในบางราย ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคน้ำลูกพรุน คือ รับประทานครั้งละ 15-30 cc.ต่อคน

ขอบคุณข้อมูลจาก http://frynn.com/

Health Benefits

Significant Antioxidant Protection from Phenols

The fresh version (plums) and the dried version (prunes) of the plant scientifically known as Prunus domestica have been the subject of repeated health research for their high content of unique phytonutrients called neochlorogenic and chlorogenic acid. These substances found in plum and prune are classified as phenols, and their function as antioxidants has been well-documented. These damage-preventing substances are particularly effective in neutralizing a particularly dangerous oxygen radical called superoxide anion radical, and they have also been shown to help prevent oxygen-based damage to fats. Since our cell membranes, brain cells and molecules such as cholesterol are largely composed of fats, preventing free radical damage to fats is no small benefit.

Content from Plums & Prunes - The World's Healthiest Foods
http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=35

ข้อมูลอ้างอิง : 

ข้อควรระวัง และ บทความรายการวิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน : สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=5477
Prunes : The World's Healthiest Foods http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=103 
Prune From Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Prune#Health_effects
What Are The Benefits Of Dried Plums? : livestrong http://www.livestrong.com/article/420197-what-are-the-benefits-of-dried-plums/?utm_source=livestrong_opar&utm_medium=3&LS-2659 
สารอาหารในลูกพรุน : Web Clinic http://www.web-clinic.org/Benefits-Of-Prunes.html Vitamin Bible by Dr. Earl Mindell R.PH., M.PH., PH.D

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของลำไยอบแห้ง Benefits of dried longan by HkVogue

Thanks picture from Google

HK Vogue : The Asian Inspiration

"HkVogue Thailand"
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

ประโยชน์ของลำไยอบแห้ง
Benefits of dried longans.

การแพทย์แผนโบราณของจีน นิยมใช้ลำไยอบแห้ง มาเป็นส่วนผสมในตัวยา เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทตา เนื้อลำไยแห้งยังมีเกลือแร่ที่มีประโยชน์ที่ ร่างกาย ต้องการในปริมาณน้อย อยู่ด้วย เช่น ทองแดง สังกะสี แมงกานีส เป็นต้น

ในทางการแพทย์แผนโบราณของจีน นิยมใช้ลำไยอบแห้งมาเป็นส่วนผสมในตัวยา เนื่องจากเนื้อลำไยอบแห้งมีรสหวาน มีสรรพคุณทางหยาง บำรุงม้าม บำรุงหัวใจ และยังมีสรรพคุณใช้บำรุงเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิต ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยบำรุงกำลังของสตรี ภายหลังจากการคลอดบุตร บำรุงประสาทตา และสามารถป้องกันเชื้อโรคบางชนิดได้

สารอาหาร เนื้อลำไยแห้ง  / 100 กรัม
- ความชื้น ร้อยละ 17.80
- ไขมัน ร้อยละ  0.40
- เส้นใย ร้อยละ 1.60
- โปรตีน ร้อยละ 4.60
- เถ้า ร้อยละ 2.86
- คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 72.70
- ค่าพลังงานความร้อน กิโลแคลอรี่ / 100 กรัม 311.80
- แคลเซียม มิลลิกรัม / 100 กรัม 27.70
- เหล็ก มิลลิกรัม / 100 กรัม 2.39
- ฟอสฟอรัส มิลลิกรัม / 100 กรัม 159.50
- วิตามินซี มิลลิกรัม / 100 กรัม 137.80
- โซเดียม มิลลิกรัม / 100 กรัม 4.50
- โปแตสเซียม มิลลิกรัม / 100 กรัม 2,012.00
- ไนอาซีน (วิตามินบี3) มิลลิกรัม / 100 กรัม 3.03
- กรดแพนโทธินิค (วิตามินบี5) มิลลิกรัม / 100 กรัม 0.57
- วิตามินบี 2 มิลลิกรัม / 100 กรัม 0.37
ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอบคุณภาพประกอบจาก biogang.net

ประโยชน์ “ลำไยอบแห้ง”

ลำไยอบแห้ง (Dried longan) ถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าอย่างมหัศจรรย์ อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จากสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามิน เกลือแร่ กรดกลูโคนิค กรดมาลิก กรดซิตริก ฯลฯ รวมทั้งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย (essential amino acids) 9 ชนิด ได้แก่ ฮิสทีดีน ไอโซลูซิน ลูซิน ไลซีน เมทไทโอนิน ฟีนิลอะลานิน ทรีโอนิน ทริปโตฟาน และวาลิน ร่างกายของเราจะสร้างกรดอะมิโนเหล่านี้ขึ้นมาเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารที่รับประทานเท่านั้น

ในตำรายาจีนโบราณได้นำลำไยอบแห้งมา ต้มกับโสม เพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ชาวจีนยังนิยมทานลำไยอบแห้ง หรือต้มดื่มน้ำลำไยอุ่นๆ บ้างก็เอามาปรุงเป็นอาหาร หั่นฝอยผัดกับข้าวก็ได้ หรือจะเอามาต้มน้ำแกงก็มีประโยชน์ต่อผิวพรรณและสุขภาพเช่นกัน

งาน วิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่า เนื้อลำไยแห้งช่วยระงับประสาทที่อ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก ลดอาการเครียด กระวนกระวาย นอนไม่หลับ “ถ้านำลำไยอบแห้งไปต้มแล้วดื่มแต่น้ำก่อนนอน…ช่วยให้หลับสบาย”

ลำไยอบแห้ง “ไม่ทำให้อ้วน” เพราะรสหวานจากน้ำตาลผลไม้นั้นจะย่อยง่ายและมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย คือ น้ำตาล 3 ชนิด ได้แก่ กลูโคส ฟรุกโตส และ ซูโคส ผลการวิจัยลำไยแห้ง

โดย รศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าในลำไยอบแห้ง ใน ประเทศไทย มีฤทธิ์ยับยั้งสารก่อมะเร็ง ช่วยลดอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว และในอนาคตอาจนำมาใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งเพราะให้ผลข้างเคียงน้อยลงหรือ ไม่มีเลย ทำให้ลดขนาดการใช้ยาหรือเคมีบำบัดลงที่มีผลข้างเคียงมากกว่า

ทั้งยัง ยืนยันสรรพคุณ ประโยชน์ของลำไยว่ามีสารออกฤทธิ์เหนี่ยวนำเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และเซลล์ มะเร็งเม็ดเลือดขาวให้ตาย สารที่ยับยั้งความเป็นพิษของสารก่อมะเร็งทางเดินอาหาร สารที่ออกฤทธิ์ลดการเสื่อมสลายของข้อเข่า

ผลการวิจัยล่าสุดได้พบว่าลำไยแห้งสามารถออกฤทธิ์ทำลายและต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน ได้ดีกว่าสารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอางปัจจุบัน.
ที่มา : ลำไยอบแห้ง อาหารบำรุงสายตา : Just Good Health

TIP

คุณภาพของเนื้อลำไยอบแห้ง แบ่งตามสีของผลิตภัณฑ์

1. สีเหลืองทอง แบ่งออกเป็น 2 เกรด

- เกรด A หมายถึง เนื้อลำไยที่ทำจากลำไยร่วงคัด หรือเกรด C หรือ เกรด B ของโรงงานลำไยกระป๋อง มาคว้านเอาเฉพาะเนื้อ ผ่านการแช่สารโปแตสเซียมเมตาไบซัลไฟท์อบจนแห้ง ลักษณะเนื้อลำไยอบแห้งเกรด A มีขนาดผลสม่ำเสมอ ไม่ฉีกขาด มีสีเหลืองทอง แห้งสนิท ไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ ใช้บริโภคได้ทันมีเหมือนผลไม้แห้งชนิดอื่น ๆ

- เกรดคละ หมายถึง เนื้อลำไยที่ทำจากลำไยร่วงมาคว้านเอาเฉพาะเนื้อ ผ่านการแช่สารโปแตสเซียมเมตาไบซัลไฟท์ นำไปอบจนแห้งลักษณะเนื้ออบแห้ง เกรดคละมีขนาดผลไม่สม่ำเสมอฉีกขาดบ้างเล็กน้อย มีสีเหลืองทอง แห้งสนิท ไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ ใช้บริโภคได้ทันทีหรือนำไปผสมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

2. สีน้ำตาล หรือเนื้อลำไยเกรดคัด หมายถึง เนื้อลำไยแห้งที่ทำจากการแกะเนื้อลำไยจากลำไยอบแห้งทั้งเปลือก ลักษณะเนื้อลำไยแห้งเกรดคัดจะมีสีน้ำตาลแดง ลักษณะยังเป็นผลฉีกขาดบ้างเล็กน้อย แห้ง มีสิ่งเจือปนบ้างเล็กน้อย นิยมไว้ทำน้ำลำไยหรือส่วนผสมของยาจีน

3. สีน้ำตาล-แดง น้ำตาล-ดำ หรือเนื้อลำไยเกรดรวม หมายถึง เนื้อลำไยอบแห้งที่ทำจากการแกะเนื้อลำไยจากลำไยอบแห้งทั้งเปลือกหรือรวมเศษเนื้อจากเกรดอื่น ลักษณะเนื้อลำไยอบแห้งเกรดรวมจะมีสีตั้งแต่สีน้ำตาลแดงไปจนถึงน้ำตาลดำ ลักษณะจะไม่เป็นผลสมบูรณ์ มีสิ่งเจือปนมาก เวลาจำหน่ายจะนำมาอัดเป็นก้อนหรือแท่งใช้ทำน้ำลำไย
ที่มา : หนังสือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในครัวเรือน สำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูน 2540

God's fruit : longan helps heart, leg cramps

DRIED LONGAN

Dried longans are high in iron and are used as a blood tonic. It may help the problem of leg cramps. The most frequent cause of leg cramps may be due to lack of a mineral deficiency of calcium and/or magnesium. It can also be a sign of electroylte imbalance due to a lack of potassium. Cramps are a sign of elctrolyte imbalance often caused by a lack of potassium. and according to Nutritional Wellness, longan has high potassium value.
Thanks English Info From : hubpages
http://goo.gl/Lj2Bqy

ข้อมูลอ้างอิง

Benefits of Longan Fruit
http://www.newhealthguide.org/Longan-Fruit.html
ลำไยอบแห้ง อาหารบำรุงสายตา : Just Good Health
http://ลําไยอบแห้ง.com/มหัศจรรย์ลำไยอบแห้ง/
คุณค่าทางอาหารของลำไย วิกิพีเดีย
http://goo.gl/F1RmvZ
การแปรรูปลำไย
http://www.arda.or.th/kasetinfo/north/processing/process_longan.html#2
การแปรรูปลำไยอบแห้งชนิดเนื้อ
http://www.ndoae.doae.go.th/article2010/longan/longan_roast2.html
BioGang.Net
http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=48460&id=184809
คุณค่าทางอาหารของลำไย | พิชญา ลำไยอบแห้ง
http://goo.gl/a7dx7G
กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 9 ชนิด โดย แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการ
http://www.healthtoday.net/thailand/nutrition/nutrition_114.html

"HkVogue Thailand" http://buff.ly/1GR2YNk
Contact Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Health Benefits of Pumpkin ประโยชน์ของฟักทอง

https://www.facebook.com/pages/HkVogue-Thailand/1432360273653136
Thanks picture from The Food Pod

HK Vogue : The Asian Inspiration

"HkVogue Thailand"
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

Health Benefits of Pumpkin
ประโยชน์ของฟักทอง

Pumpkins protect the skin

A great one, exactly the same free-radical-neutralizing powers of the carotenoids within pumpkin that could maintain cancer cells away may also help maintain the skin wrinkle-free.

For healthy skin

Pumpkin is additionally abundant with good fatty acids within the protein which skin needs and in addition include vitamin E, zinc, and magnesium that serves to help make the skin much more glowing. Consuming pumpkin may also let the regrowth of skin cells as well as combat bacteria that can cause acne. Vitamin E is really a effective anti-oxidant that can help skin repair procedure. Zinc included in the pumpkin is yet another acne treatment.

A pumpkin is actually a gourd-like squash of the genus Cucurbita and also the family Cucurbitaceae (that also consists of gourds). It generally describes cultivars of any one of the varieties Cucurbita pepo, Cucurbita mixta, Cucurbita maxima, and Cucurbita moschata, and is also indigenous to North America. They sometimes have got a thicker, orange or even yellow covering, creased from the stem to the bottom, which contains the seeds and pulp. Pumpkins usually are broadly cultivated for industrial use, and therefore are utilized both in food as well as recreation. Pumpkin pie, as an example, is really a standard section of Thanksgiving meals in the USA, as well as pumpkins are generally designed as adornments all-around Halloween. A pumpkin which has a little face carved within it and hollowed out and embellished along with candles within is regarded as a jack o’lantern; they are frequently utilized at Halloween, as an example, to embellish windows.

The pumpkin is really a extremely nourishing veggie due to its large store of vitamins and anti-oxidants. It is abundant with vitamin A along with other antioxidants just like carotenes, xanthins and leutin. Additionally it is lower in calories and therefore is probably the broadly cultivated veggie on the earth.

Content from : http://www.healthbenefitstimes.com/health-benefits-of-pumpkin/

ประโยชน์ของฟักทอง

1.ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา
2.ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น
3.ประโยชน์ฟักทอง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
4.ฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย
5.ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
6.น้ำมันจากเมล็ดฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงประสาท
7.เมล็ดฟักทองช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะมีสารที่ช่วยในการสร้าง Serotinin ซึ่งมีผลต่ออารมณ์
8.มีฤทธิ์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
9.เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดความอ้วน เพราะมีไขมันน้อยกากใยสูง
10.ฟักทองมีกรดโปรไพโอนิคซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
11.มีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
12.มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ
13.ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณข้อเข่า บั้นเอว
14.มีส่วนช่วยป้องกันโรคผิวหนัง
15.เปลือกฟักทองมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
16.ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหลังจากร่างกายทำงานอย่างหนัก และทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
17.รากฟักทองนำมาต้มกับน้ำดื่มช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ
18.ฟังทองจัดว่ามีกากใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับถ่าย
19.ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นซึ่งจะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
20.ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
21.สรรพคุณของฟักทอง มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
22.สรรพคุณฟักทอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว
23.ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากขยายใหญ่มากขึ้น
24.ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ
25.ช่วยขับพยาธิตัวตืด โดยนำเมล็ดฟักทองประมาณ 50 กรัม นำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำตาล นม และเติมน้ำลงไปจนได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แล้วนำมาแบ้งรับประทานเป็น 3 ครั้ง ทุกๆ 2 ชั่วโมง
26.ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง
27.รากฟักทองเมื่อนำมาต้มดื่มจะช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย ถอนพิษของฝิ่นได้
28.เยื่อกลางของผลฟักทอง สามารถนำมาใช้พอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด และอักเสบได้
29.ใช้รับประทานเป็นอาหารว่าง อย่าง น้ำฟักทองคั้นสด พายฟักทอง
30.นำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ย่างหลากหลาย เช่น ซุปฟักทอง แกง กินกับน้ำพริก เป็นต้น

ฟักทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Cucurbita moschata Decne. ฟักทองแบ่งออกเป็นสองตระกูล อย่างแรกก็คือ ตระกูลฟักทองอเมริกัน (Pumpkin) จะมีผลใหญ่ เนื้อยุ่ย และอีกตระกูลคือตระกูลสควอช (Squash) ซึ่งได้แก่ฟักทองไทยและฟักทองญี่ปุ่น โดยฟักทองไทยนั้น ผิวของผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองสลับเขียว ผิวขรุขระเล็กน้อยโดยเปลือกจะมีลักษณะแข็งเนื้อในมีสีเหลือง พร้อมด้วยเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่ฟักทอง
ประโยชน์ของฟักทอง นั้นมีหลากหลายเพราะฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็ก ซิงค์ เป็นต้น

ฟักทอง ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะฟักทองมีกากใยที่สูงมาก มีแคลอรี่และไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพียงแค่รับประทานฟักทองหนึ่งถ้วยหรือ 3 กรัมจะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

ฟักทอง แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานอย่างไม่เหมาะสมก็เป็นโทษได้ เช่น เพราะฟักทองมีฤทธิ์อุ่น จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่กระเพาะร้อน เช่น ผู้ที่มักมีอาการกระหายน้ำ ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก มีแผลในช่องปาก เหงือกบวมเป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่มีอาการเหล่านี้ไม่ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่มากเกินไปหรือบ่อยเกินไป แม้กระทั่งในคนปกติเองก็ตามก็ไม่ควรรับประทานอย่างไร้สติ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้

ฟักทอง สรรพคุณและประโยชน์ของฟักทอง 30 ข้อ!  http://buff.ly/1EYMR0U
บทความโดย: มิส พัชรี มาลีรัตน์
งาน: งานโภชนาการ

คำแนะนำ

Disclaimer : บทความที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านสุขภาพแก่ผู้เข้าชมเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยในการรักษาของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

***ในแต่ละวันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานอาหารให้หลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆกันทุกวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี***

ข้อแนะนำ : ควรศึกษาข้อมูลจากหลากหลายที่ และเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อความชัดเจน เพราะข้อมูลบางอย่างอาจจะยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนอย่างชัดเจน และหากมีข้อสงสัยใดๆควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่าน และ/หรือ นักกำหนดอาหาร (dietitian) - นักโภชนาการ (nutritionist)

"Ask Healthy Living" is for informational purposes only and is not a substitute for medical advice. Please consult a qualified health care professional for personalized medical advice.

บทความที่ได้รับความนิยม